การจัดการดินให้มีประสิทธิภาพถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำเกษตรสมัยใหม่ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามีเครื่องมือง่ายๆ ที่ช่วยให้เราเข้าใจสภาพดินได้อย่างลึกซึ้ง นั่นก็คือ การวัดค่าการนำไฟฟ้าของดิน หรือ Soil EC นั่นเองครับ
วันนี้ IFARM จะพาสมาชิกไปทำความรู้จักกับค่านำไฟฟ้าของดิน หรือ Soil EC (Electrical Conductivity) แบบเจาะลึก หลังจากนั้นจะชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง Soil EC กับอินทรียวัตถุในดิน (Soil Organic Matter) จุดนี้คือกุญแจสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพดินและการเพิ่มผลผลิตของเราทีเดียวเลยครับ
ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกัน
ไอฟาร์มทีม
ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
Quick Navigation
ในยุคที่การทำเกษตรต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้นและทรัพยากรที่จำกัด การหาเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและประหยัดทรัพยากรไปพร้อมกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ Soil EC หรือการวัดค่าการนำไฟฟ้าของดิน คือหนึ่งในคำตอบที่คุณกำลังมองหา เทคโนโลยีนี้จะช่วยคุณในการจัดการดิน น้ำและการใช้ปุ๋ยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Soil EC: ตัวชี้วัดอินทรียวัตถุในดิน
ค่า Soil EC มีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณอินทรียวัตถุ (Organic Matter) ในดิน โดยทั่วไปแล้ว ดินที่มีอินทรียวัตถุสูงมักจะมีค่า EC สูงตามไปด้วย เนื่องจากอินทรียวัตถุช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและประจุไฟฟ้าในดินนั่นเองครับ
จากการศึกษาของ Patriquin et al. (1993) พบว่า ค่า EC มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับปริมาณอินทรียวัตถุในดิน โดยมีค่าสหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ 0.76 ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม การแปลผลค่า EC เพื่อประเมินอินทรียวัตถุนั้นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:
* ชนิดของดิน
* ความชื้น
* ปริมาณแร่ธาตุในดิน
Advertising Area | พื้นที่ประชาสัมพันธ์ : ชุดทดสอบค่าอินทรียวัตถุ
อินทรียวัตถุ: ตัวปรับแต่งค่า EC และโรงงานปุ๋ยธรรมชาติในดิน
อินทรียวัตถุในดินทำหน้าที่เสมือน “แบตเตอรี่” ธาตุอาหาร โดยมีคุณสมบัติดังนี้:
* ดูดซับและเก็บรักษาธาตุอาหาร
* ปลดปล่อยธาตุอาหารเมื่อพืชต้องการ
* ปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย
* เพิ่มการระบายน้ำและอากาศในดิน
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มอินทรียวัตถุในดินมากเกินไปอาจส่งผลเสียได้ เช่น ทำให้ค่า EC สูงเกินไป ส่งผลให้พืชดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ยากขึ้น ดังนั้น การจัดการอินทรียวัตถุในดินจึงต้องทำอย่างสมดุล โดยใช้ค่า EC เป็นตัวชี้วัดร่วมด้วยครับ
การประยุกต์ใช้ Soil EC ในการจัดการน้ำ
ความสัมพันธ์ระหว่าง Soil EC, อินทรียวัตถุ และความชื้นในดิน สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วยครับ
ค่า EC สูง: อาจบ่งชี้ว่าดินมีความชื้นมากเกินไป หรือมีการสะสมของเกลืออยู่
การแก้ไข: ปรับเปลี่ยนวิธีการให้น้ำหรือเพิ่มการระบายน้ำ
ค่า EC ต่ำ: อาจบ่งชี้ว่าดินมีความชื้นน้อยเกินไป หรือมีอินทรียวัตถุต่ำ
การแก้ไข: เพิ่มการให้น้ำหรือเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน
กรณีศึกษา: ฟาร์มองุ่นในแคลิฟอร์เนีย (Stamatiadis et al., 2013) ได้นำ Soil EC มาใช้ในการจัดการน้ำ พบว่าสามารถลดการใช้น้ำลงได้ 20% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต
เห็นไหมครับว่าการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง Soil EC อินทรียวัตถุ และความชื้นในดิน จะช่วยให้คนทำเกษตรจัดการดินและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้พืชเติบโตได้ดี ผลผลิตสูงขึ้น แถมยังประหยัดทรัพยากรได้อีกด้วยครับ
สรุป
Soil EC หรือการนำไฟฟ้าของดิน อาจดูเป็นเรื่องยากพอสมควร แต่เราก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพราะมันจะช่วยให้เรานำไปประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรของเราในหลากหลายมิติ ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบต่อต้นทุนและผลผลิตครับ
วัดค่า pH ดินแม่นยำ คุณภาพจากญี่ปุ่น
จะแก้ปัญหาค่าดินให้ถูกจุด ต้องมั่นใจว่าค่า pH ดินที่วัดได้มีความถูกต้อง ... พบกับ Takemura DM-5 เครื่องวัดค่ากรดด่างและความชื้นดิน แบรนด์ญีุ่ป่น ของแท้ ... คลิกเพื่อรับส่วนลดและของแจกฟรีมากมาย
บทความแนะนำ
-
-5%Add to cartQuick View
-
-5%Add to cartQuick View