ถ้าคุณกำลังมองหาปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำ แถมยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยเก็บความชื้นในดิน คุณต้องไม่พลาดบทความนี้ บทความที่จะพาคุณไปพบกับ “แหนแดง” พืชมหัศจรรย์ที่จะช่วยคุณเพิ่มผลผลิต และผลกำไรอย่างน่าทึ่ง
ผู้บริหารไอฟาร์ม
ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
Quick Navigation
2-3 วันก่อน เข้าไปเสริชในอินเตอร์เน็ต
พอดีอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับพืชที่มี Nitrogent Content สูง ๆ
ตั้งใจว่าจะเอามาดีไซน์ Bedding เลี้ยงไส้เดือนสูตรใหม่
เผอิญไปเจอข้อมูลของกรมวิชาการเกษตรชิ้นหนึ่ง
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “แหนแดง”
อ่านแล้วชอบครับ ชอบมาก
คิดว่าน่าจะมีประโยชน์
เลยหยิบมาย่อยให้สมาชิก IFARM ได้อ่านกัน
แหนแดง พืชมหัศจรรย์ ไนโตรเจนสูง
คืออย่างนี้ครับ
“กรมวิชาการเกษตร” เขาพยายามค้นคว้าหาพืชที่มีไนโตรเจนสูง ๆ (ต้นทุนต่ำ ๆ)
เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้ทดแทน หรือเสริมปุ๋ยเคมี
วิจัยอยู่หลายชนิดครับ
สุดท้ายพบว่า “แหนแดง” ตอบโจทย์เรื่องนี้มาก
ถึงขนาดที่ “กรมวิชาการเกษตร” ชูเป็นพืชมหัศจรรย์
วางแผนหนุนเกษตรกรใช้แหนแดงแห้งทดแทนปุ๋ยเคมีในแปลงพืชผัก
แบบเอาจริงเอาจัง
จากการวิเคราะห์พบว่า “แหนแดง” มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบสูงถึง 5 %
สูงกว่าพืชตระกูลถั่ว 2 เท่าตัว
ของถั่วประมาณ 2.5 -3 % เองครับ
ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะใบของแหนแดงมีโพรงใบซึ่งมีสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินชนิดที่ตรึงไนโตรเจนอาศัยอยู่
ไนโตรเจนสูงแบบนี้ จะยกให้ “แหนแดง” เป็นโรงงานผลิตปุ๋ยไนโตรเจนชีวภาพก็คงไม่ผิดครับ
เอาไปใช้ทดแทนหรือลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
ที่เจ๋งกว่านั้น “แหนแดง” ยังช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินด้วยครับ
แหนแดงสายพันธุ์ "อะซอลล่า ไมโครฟินล่า"
ข่าวล่าสุดครับ
กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร
ได้ปรับปรุงพันธุ์แหนแดงสายพันธุ์ “อะซอลล่า ไมโครฟินล่า” ขึ้นมา
ความพิเศษของเจ้า “อะซอลล่า ไมโครฟินล่า” อยู่ที่ผลผลิตและประสิทธิภาพในการตรึงไนโตรเจนครับ
มันให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองถึง 10 เท่า
เยอะนะครับ 10 เท่า
นอกจากนี้ยังขยายพันธุ์เร็วมากครับ
ประมาณ 30 วัน จะได้ “แหนแดงสด” อยู่ที่ราว ๆ 3 ตัน/ไร่
ที่สำคัญ “อะซอลล่า ไมโครฟินล่า” สามารถตรึงไนโตรเจนได้ถึง 5-10 กิโลกรัม/ไร่
ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ
ปกติ “แหนแดง อะซอลล่า ไมโครฟินล่า” ถูกนำมาใช้ประโยน์เป็นปุ๋ยพืชสดในข้าวเป็นหลัก
ยังไม่ค่อยแพร่หลายกับพืชผักชนิดอื่น ๆ
“กรมวิชาการเกษตร” ไม่รอช้าครับ
ตอนนี้พยายามผลักดันให้เกษตรกรนำมาใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี
เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต
โดยเฉพาะกับผักต่าง ๆ เช่น คะน้า กวางตุ้ง และผักสลัด
การนำ "อะซอลล่า ไมโครฟินล่า" ไปใช้
สำหรับสมาชิก IFARM ท่านใดที่สนใจจะนำ “อะซอลล่า ไมโครฟินล่า” มาใช้
แนะนำให้นำมาตากแห้งก่อนนะครับ
เพราะถ้าใช้สด ๆ ต้องใช้ปริมาณมากถึงจะได้รับธาตุอาหารที่เพียงพอ
เขามีผลวิเคราะห์ออกมาแล้วครับ
“สด” กับ “แห้ง” คุณสมบัติไม่ต่างกัน
แต่ใช้ปริมาณน้อยกว่าเยอะครับ
และรู้อะไรไหมครับ
“แบบแห้ง” ยังเก็บใส่กระสอบไว้ได้นานถึง 3 ปี
โดยที่ธาตุอาหารยังอยู่ครบทุกประการ
ประโยชน์ของแหนแดง "อะซอลล่า ไมโครฟินล่า"
มีงานทดลองต่อยอดชิ้นหนึ่งน่าสนใจดีครับ
เขานำ “แหนแดงแห้ง” ไปทดลองใช้กับผักกินใบ
โดยนำมาคลุกกับดินหรือรองก้นหลุม 1 กำมือ
ใช้แต่แหนแดงอย่างเดียว ปุ๋ยเคมีไม่แตะเลย
ผลลัพธ์น่าพอใจ ทั้งในเชิง “คุณภาพ” และ “ปริมาณ”
ที่สำคัญ “ต้นทุน” ต่ำมาก
ข้อมูลของ “กรมวิชาการเกษตร” ระบุไว้ว่า
แหนแดงแห้ง 1 กิโลกรัมสามารถใช้ในพื้นที่ปลูกผักประมาณ 2 ตารางเมตร
ซึ่งเมื่อเทียบกับปุ๋ยยูเรียแหนแดงแห้ง 1 กิโลกรัม
มีปริมาณธาตุอาหารเท่ากับปุ๋ยยูเรีย ประมาณ 100 กรัม (1 ขีด)
ประโยชน์ของ “แหนแดง” ยังมีอีกเยอะครับ
เอาแบบแห้งไปผสมกับวัสดุปลูกกล้าได้เลยครับ
รับรองกล้าเจริญเติบโตเร็วแน่นอน
หรือใครที่เลี้ยงสัตว์พวก เป็ด ไก่ ห่าน ปลา วัว หรือสุกร
เสริฟ “แหนแดงสด” ให้เลยครับ
เพราะแหนแดงสดมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์
ผมก็ตั้งใจจะเอามาใช้เลี้ยงไส้เดือนอยู่เหมือนกัน
ใช้เป็นอาหาร Nitrogen Source
เอาไปเสริมมูลสัตว์
ไส้เดือนน่าจะชอบ
ปุ๋ยที่ได้มาน่าจะมีตัว N สูงเอาเรื่องครับ
ส่วนสมาชิก IFARM ท่านใดที่ดินเก็บความชื้นไม่ค่อยดี
ลองเอา “แหนแดง” ไปปรับใช้ครับ
ข้อมูลระบุว่า “แหนแดงแห้ง” สามารถซับน้ำได้ 300 เท่าของน้ำหนักตัว
สูงมากนะครับ 300 เท่าของน้ำหนักตัว
สุดยอด
แหล่ง "อะซอลล่า ไมโครฟินล่า"
ถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่าจะไปหา “อะซอลล่า ไมโครฟินล่า” ได้ทีไหน
ในคลอง ?
ในบ่อ ?
ไม่ใช่ครับ
โน่นติดต่อไปที่ “กรมวิชาการเกษตร” เลยครับ
(ในออนไลน์ก็มีขายกันหลายเจ้า)
เขาสนับสนุนทั้งแม่พันธุ์แหนแดงและเทคโนโลยีในการเพาะเลี้ยงให้ด้วย
รีบเลย อย่าช้าครับผม
