
ถ้าคุณเป็นเจ้าของฟาร์ม คุณไม่ใช่แค่เกษตรกร แต่คือ “ผู้ประกอบการ” ที่ต้องมีหลายทักษะมากกว่าการผลิตเพียงอย่างเดียว และหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดแต่ถูกมองข้ามมากที่สุดก็คือ “การเขียน”
การเขียนไม่ใช่แค่การเรียงตัวอักษร แต่คือ เครื่องมือทรงพลังในการสร้าง Traffic และเปลี่ยน Traffic เป็นยอดขาย ในยุคที่ Organic Traffic สำคัญกว่าการทุ่มเงินยิงแอด การเขียนจึงเป็น “อาวุธลับ” ที่ช่วยให้ธุรกิจรอดและรุ่ง
ไม่ว่าคุณจะขายผลผลิต ขายเครื่องมือ หรือขายคอร์สออนไลน์ การเขียนคือทักษะที่เปลี่ยนหน้าขายธรรมดาให้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า หากคุณอยากให้ธุรกิจเติบโต—เริ่มต้นฝึกเขียนตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะได้เห็น “สิ่งมหัศจรรย์” ด้วยตาของตัวเอง

ผู้บริหารไอฟาร์ม
ใช้เวลาอ่านประมาณ: 4 นาที
Quick Navigation
ถ้าคุณทำเกษตรเชิงธุรกิจ
คุณไม่ใช่เจ้าของฟาร์มแต่เพียงอย่างเดียว
แต่คุณกำลังสวมหมวก “ผู้ประกอบการ” อีกใบด้วย
… เว้นเสียแต่ว่าคุณทำเกษตรเพราะอยากหันหลังให้โลก
คำว่า “ผู้ประกอบการ” มีนัยยะสำคัญแฝงอยู่
Decode ได้ว่าคนที่จะทำธุรกิจเกษตร (ธุรกิจอื่นๆ ด้วย) ให้สำเร็จ
ต้องเป็นคนที่ Multi-skills พอตัว
รู้แค่ “การ” เดียว บอกได้เลยว่า “รอดยาก”
เจอบ่อยมากครับ
เก่ง “การผลิต” มาก ให้ปลูกให้เพาะอะไรไม่คณามือ
แต่พอเป็นเรื่อง “การขาย” “การตลาด” ส่ายหัวเป็นบังขายถั่วเลย
จะหาคนรับซื้อท่าเดียว
และยิ่งเป็นเรื่อง “การเงิน” ยิ่งเบือนหน้าหนี
อยากได้เงิน แต่ไม่เอาใจใส่เรื่องเงิน
เงินมันก็ไม่ให้ใจกับเราคือกันครับ
จุดจบมักมีแค่ 2 อย่าง คือไม่ตาย ก็แคระแกร็น
ใส่ปุ๋ยไปเท่าไรก็ไม่มีทางโต แถมยังสิ้นเปลืองอีกต่างหาก
ผู้ + ประกอบ + การ
ตามชื่อเลยครับ
“ผู้ + ประกอบ + การ”
ทักษะพื้นฐานที่เจ้าของธุรกิจต้องมีคือ
มีความสามารถในการ “ประกอบ” “การ” ต่างๆ
ให้ทำงานสอดประสานกัน
อย่าเข้าใจผิดว่า “ผู้ + ประกอบ + การ”
ต้องเก่งกล้าสามารถในทุก “การ” นะครับ
นั่นเป็นเรื่องที่เป็นได้ยาก
ใครทำได้ คนนั้นต้อง Super Special จริงๆ
แต่แน่นอนครับ
“การ” ไหนที่จำเป็นต่อ “ความอยู่รอด” ของธุรกิจของเรา
เราจำเป็นต้องเก่ง (พอตัว)
และยิ่งไปกว่านั้นต้องรู้จัก Integrate “การ” ทุกการเข้าด้วยกัน
จนเกิดเป็น “แต้มต่อ” ที่คนอื่นไม่มีให้ได้
ผมบอกไม่ได้ว่าใครต้องเก่ง “การ” อะไรบ้าง
เพราะมันขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ – สินค้า
Business Model รวมทั้ง “จริต” ของเจ้าของด้วย
แต่ถ้าจะให้ตอบแบบกว้างๆ ก็คงหนีไม่พ้น
การตลาด … การขาย … การเงิน และการผลิต
นี่คือทักษะพื้นฐาน 3-4 อย่างที่คนเป็นเจ้าของธุรกิจต้องมี
ไม่จำเป็นต้องเก่งจนเป็นตัว Top 1% หรอกครับ
แต่อย่างน้อยก็ต้องสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป
แค่สูงกว่านิดหน่อยก็รอดและประสบความสำเร็จได้แล้วครับ
ถึงตรงนี้ ผมอยากจะเล่าถึง “การ” อันหนึ่ง
ที่ผมสัญญากับตัวเองว่าปีนี้จะฝึกและฝน
ให้เก่งกว่าค่าเฉลี่ยสัก 000.1% ให้ได้
One Person Business (OPB)
ก่อนจะเล่าต่อ ขอออกแขกก่อน
ช่วงนี้ผมกำลังหมกหมุ่นอยู่กับ One Person Business (OPB)
ที่สนใจไม่ใช่เพราะต้องการจะเปลี่ยน IFARM ไปเป็นธุรกิจ One Man Show นะครับ เพียงแต่มันมีบางเรื่องบางมุมที่คิดว่าน่าจะหยิบมาใช้กับ IFARM ได้
โดยเฉพาะการสร้าง Traffic และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภท High Profit แต่ Low Risk
คนที่เป็นเจ้าพ่อธุรกิจสาย OPB มีหลายคน เช่น Donald Miller, Ali Abdaal, Sabri Suby และ Justin Welsh
แต่ที่โดดเด่นที่สุดต้องเป็นคนนี้ครับ
“Dan Koe”
เด่นแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าแกฟาดรายได้ไป 6.9 ล้านเหรียญต่อปี

บทความก่อนหน้านี้ ผมเคยเล่าไปแล้วว่าหัวใจของ OPB มี 3 ขั้นตอน
ขั้นแรก พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ห้ามหยุดเด็ดขาดครับ
ยิ่งทักษะของเรามีความเฉพาะตัวมากขึ้นเท่าไร
ผลิตภัณฑ์ของเราก็ยิ่งมีความโดดเด่น
คนที่คิดจะ Copy ต้องออกแรง (สมอง) กันหน่อย
จะปล่อยให้มากด Ctrl C แล้วตามด้วย Ctrl V ง่ายๆ ไม่ได้
ขั้นที่สอง ขยันสร้าง Traffic
Traffic ในที่นี่ก็คือตลาด หรือคนซื้อ
Dan Koe เปรียบ Traffic เป็น Wave หรือคลื่นทะเล ต่อให้เราผลิต Surf Board ได้แบบสุดคูลแค่ไหน ก็ขายได้ยากหากทะเลไร้ซึ่งคลื่นลม
Dan Koe แนะนำให้สร้าง Traffic ก่อนจะสร้าง Product
เพราะถ้าไม่มี Wave แต่ดันผลิต Surf Board ออกมาขาย
โอกาสโตยาก (ตายยังง่ายกว่า)
ขั้นที่สาม
ต้องหาวิธีเปลี่ยน Traffic เป็น Order ให้ได้
ถ้า Conversion Rate ต่ำ ชีวิตถูกผลักเข้าโหมดลำบากอีกเช่นกันครับ
ด้วยเหตุนี้ ขั้นตอนที่ 2 จึงสำคัญมาก ….. แบบ ก. ไก่ ล้านตัว
ถ้า Traffic ที่หามาได้ ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ Relevant กับผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างขึ้นมา ต่อให้ (การ) ขายเก่งแค่ไหน โอกาสปิดการขายรัวๆ คงไม่ใช่เรื่องง่าย … ประมาณเหมือนคุณขายรถหรู ราคาหลักร้อยล้าน แต่ดันให้คนไปยืนแจกโบว์ชัวร์อยู่ป้ายรถเมล์ … เห็นภาพนะครับ
การสร้าง Traffic สไตล์ Dan Koe
ผมเดาว่าหลายคนน่าจะอยากรู้ว่า
Dan Koe มีวิธีการสร้าง Traffic ของเขาอย่างไร
คำตอบคือ Writing … Writing และ Writing ครับ
Dan Koe ไม่ได้บอกเหตุผลตรงๆ ว่าทำไมเขาจึงเลือก “Writing” ในการเฟ้นหา “Traffic” เดาว่าน่าจะไม่พ้น 2 ข้อนี้ครับ
หนึ่ง ช่วงเริ่มต้นของการทำ OPB ทรัพยากรทุกอย่างมีจำกัด โดยเฉพาะเงินทุน Organic Traffic น่าจะเป็น Option ที่ฉลาดกว่า Paid Traffic หรือการยิง Ad
และแน่นอนหัวใจสำคัญของ Organic Traffic อยู่ที่การเขียน ไม่ว่าจะการเขียนเพื่อ SEO (Search Engine Optimization) หรือเพื่อสร้าง Engagement ก็ตาม
สอง ตัวอักษรมันมีพลังแฝงที่สื่อให้เห็น “จริต” หรือ “ตัวตนที่แท้จริง” ของแบรนด์ได้ ถ้าจริตของแบรนด์ตรงกับจริตของ Traffic จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “แฟนพันธุ์แท้” หรือ True Fan ตามมาครับ
True Fan นี่ล่ะครับคือตัวชี้เป็นชี้ตายให้ธุรกิจของเรา … ไม่ใช่ยอด Followers ครับ
ในยุคที่ Reach ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ยอด Followers มีประโยชน์อย่างเดียว คือให้อินฟลูฯ เอาไปใช้ล่อหลอกบรรดา Sponsors ที่ยังจมกับตัวเลขปลอมๆ อยู่
เขียนเพื่อขาย
ผมมาลองทบทวนดูงานของ IFARM ก็ออกจะเห็นด้วยกับ Dan Koe เพราะจะขายสินค้าอะไร ไม่ว่าจะเป็นผลิตผลต่างๆ เครื่องมือเครื่องจักร หรือแม้กระทั้งคอร์สต่างๆ ก็ต้องเริ่มต้นจากการเขียน ยกตัวอย่างเช่น
✅ หน้าขายสินค้าในเว็บไซต์
✅ หน้า Sales Page / Sales Funnel
✅ บทความในเว็บไซต์
✅ โพสต์ใน Facebook และ Social Media Platform ต่างๆ
✅ Banner ขายของ
✅ VDO (เขียน Script)
นี่แค่น้ำจิ้มครับ ยังมีงานอีกเยอะที่เกี่ยวข้องกับการเขียน จะเห็นได้ว่าการเขียนมีบทบาทสำคัญและสร้าง Impact ต่อการทำธุรกิจในยุค Digital มหาศาล
การเขียนจึงเป็น “การ” ที่ผู้ + ประกอบ + การ ยุคใหม่ต้องมีครับ
บางท่านอาจจะแย้งว่ากะอีแค่การขีดๆ เขียนๆ ทำเป็นมาตั้งแต่เรียนอนุบาล 1 ต้องฝึกให้ยุ่งยากทำไมอีก เสียเวลาเปล่าๆ แทนที่จะเอาเวลาไปหาลูกค้า … ในฐานะที่ผมพอจะมีประสบการณ์ในการเขียนอยู่บ้าง เชื่อผมซิ การเขียนเพื่อโน้มน้าว เขียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หรือเขียนเพื่อขายสินค้า มันต้องการทักษะที่มากกว่าการจับตัวหนังสือมาต่อๆ กัน เอาแค่ขึ้นต้น Headline ให้คนหยุดอ่านอย่างเดียวยังโคตรของโคตรยากแล้วเลยครับ
ทำไมไม่ใช้ Ai เขียนให้ล่ะ ? กำลังจะบอกผมแบบนี้ใช่ไหมครับ
ใช้ครับผมใช้ และใช้เยอะด้วย เพียงแต่ใช้ในการค้นคว้าข้อมูลเป็นหลัก แม้ Ai จะเก่งขึ้นทุกวัน แต่มันยังขาดอยู่ 2 สิ่งครับ …. “หัวใจ” และ “ความรู้สึก” …. มันจึงสื่อเข้าไปไม่ถึงส่วนลึกของหัวใจคนอ่านครับ … วันข้างหน้า Ai อาจจะทำได้ก็ได้ แต่ตอนนี้ยังห่างไกลครับ … ตอนนี้ผมเลยยึดหลัก Ai Draft, Human Craft ไปก่อน … ให้ Ai เป็นผู้ช่วยหาข้อมูล ร่างโครงบ้าง แต่ผมยังชอบจะนำข้อมูลที่ได้มาเขียนเองมากกว่า
Mega Skills ที่ผู้ประกอบการเกษตรต้องมี
ในมุมมองของ Dan Koe นอกจากการเขียนแล้ว การอ่านยังเป็นทักษะระดับ Mega Skills ที่ผู้ + ประกอบ + การ (หมายรวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรด้วยนะครับ) จำเป็นต้องมี ขออนุญาตยืม Quote ของคุณ Toy Kasidis Satangmongkol แห่ง DataRockie – คนที่งานเขียนของเขามีส่วนกระตุ้นให้ผมอยากจะลุกขึ้นมาหัดเขียนอย่างจริงจัง มายืนยันอีกแรงครับ
Note: คุณ Toy มีเปิดคอร์ส (Text-Based) เกี่ยวกับ OPB ใครสนใจไปเรียนได้ครับ ฟรีครับ ข้อมูลบางส่วนในบทความนี้ผมก็หยิบมาจากในคอร์ส DataRockie
ไม่มี Input ที่ดี จะสร้าง Output ที่ดี ได้อย่างไร จริงไหมครับ ?
ผมจึงอยากเชิญชวนผู้ + ประกอบ + การ ธุรกิจเกษตรทุกคนตั้งเป้าฝึกฝน “การเขียน” ให้มีพลังในเชิงสร้างสรรกันครับ …. ตั้งเป็น Mega Goal ที่ต้องทำให้ได้ในปีนี้ไปเลยครับ …. ฝึกทุกวันนับจากวันนี้ แล้วสิ้นปีคุณจะเห็น “สิ่งมหัศจรรย์” เกิดขึ้นกับตัวคุณ และฟาร์มของคุณแบบไม่เชื่อสายตาตัวเองครับ
ทิ้งท้าย …. ขอปิดท้ายแบบทื่อๆ ด้วย Quote ของ Dan Koe ครับ …Input ผมหมดแล้ว … ฮ่าาาาา

คอร์ส (ออนไลน์) เกษตรทำเงิน ถูกกว่าเดิม แถมฟรีอีกหนึ่งคอร์สเพิ่มเติม
คัดพิเศษ 5 คอร์ส (Online) Hot Hit ที่เริ่มต้นง่าย + ลงทุนน้อย + ใช้พื้นที่ไม่มาก + มีความต้องการของตลาดต่อเนื่อง สามารถทำเป็นอาชีพหลัก หรือหารายได้เสริมก็ได้ …. ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน … เรียนได้ตลอด ไม่มีหมดอายุ ปรึกษาอาจารย์ได้ และเยี่ยมชมฟาร์มได้ ... มัดรวม 5 คอร์ส รับส่วนลดกว่า 3,000.00 บาท สมัครวันนี้แถมฟรีอีกหนึ่งคอร์ส มูลค่า 490.00 บาท คุ้มสุดคุ้ม
บทความแนะนำ
-
-5%Add to cartQuick View
-
-5%Out of stockRead moreQuick View