ค่า pH ของดินปลูกทุเรียน และปัจจัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปลูก "ทุเรียน" ให้โตไวได้ผลิตสูง
“ทุเรียน” เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มียอดการส่งออกและสร้างรายได้ให้ประเทศสูงขึ้นทุกปี อย่างไรก็ดี การปลูกทุเรียนให้โตไว และได้ผลผลิตต่อไร่ที่สูง ผู้ปลูกทุเรียนจำเป็นต้องดูแลปัจจัยสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ค่า pH ของดินปลูกทุเรียน, อุณหภูมิ, ความชื้นในอากาศ สภาพดินให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา
ดร. คณวัฒน์ ธีรนิธิวัฒน์
ผู้บริหารไอฟาร์ม
10/07/2021
ใช้เวลาอ่านประมาณ: 2 นาที
Quick Navigation
ทุเรียนเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดที่มีความชื้นในอากาศและฝนดี เช่น ภาคใต้ ภาคตะวันออก ถ้าปลูกนอกพื้นที่ โอกาสตายเยอะ เราต้องปลูกพืชพี่เลี้ยง เช่น กล้วย สะตอ ไผ่ แซมไว้ในสวน หรือทำระบบน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศช่วย
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน
ค่า pH ของดิน (กรดด่าง) ปลูกทุเรียน
- ค่า pH ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกทุเรียนอยู่ในช่วง 5.5 – 6.5 pH เพราะเป็นช่วงที่ทำให้ทุเรียนสามารถดูดซับธาตุอาหารได้ดี จึงทำให้ทุเรียนเจริญเติบโตได้ไว
- การใส่ปุ๋ยให้ทุเรียนในขณะที่ดินมีปัญหากรดจัด หรือด่างจัด ไม่เกิดประโยชน์ต่อทุเรียนเต็ม 100% เพราะธาตุอาหารบางตัวจะถูกตรึงไว้ ทุเรียนไม่สามารถนำไปใช้งานได้ ยิ่งใส่ปุ๋ยมาก ยิ่งมีโอกาสขาดทุนสูง
- หากดินเป็นกรดสูง คือตั้งแต่ 5.5 pH ลงมา กิจกรรมของแบคทีเรียและแอกติโนไมซีสต์ (Actinomycetes) จะลดลงมากขณะที่เชื้อรายังทนทานอยู่ได้ ทำให้ทุเรียนมีโอกาสเกิดปัญหาโรครากเน่าโคนเน่าได้ง่าย
- ปัญหาดินเป็นกรดจัดส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นทุเรียน 2 เรื่อง คือ
หนึ่ง ทำให้พืชขาดธาตุอาหาร โดยเฉพาะฟอสฟอรัสและแคลเซียม และ
สอง ทำให้ธาตุอาหารพืชบางชนิดละลายออกมามากจนเป็นพิษต่อพืช เช่น อะลูมินัม - หากดินสำหรับปลูกทุเรียนมีปัญหาเรื่องกรดด่าง จะเน้นแก้ไขค่า pH อย่างเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาเติมธาตุอาหาร เช่น ธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม (มีอยู่ในปูนโดโลไมต์) ที่ขาดไปลงไปด้วย
- การใช้ปุ๋ยเคมีปริมาณสูงและต่อเนื่องยาวนาน มีแนวโน้มที่จะทำให้ดินที่ปลูกทุเรียนเป็นกรดเพิ่มขึ้น
- ค่า pH ของดินปลูกทุเรียนมีการเปลี่ยนจากปัจจัยต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น การใช้ปุ๋ยเคมีมากเกินไป การชะละลายธาตุเป็นด่างออกไป น้ำฝน (เป็นกรดอ่อน) น้ำทะเลหนุน ดังนั้นจึงควรวัด pH ดินอยู่เป็นประจำ
- เครื่องมือวัดค่า pH ดิน ที่เหมาะสมและคนทำสวนทุเรียนนิยมใช้มากที่สุด คือ เครื่องวัด pH ดิน TAKEMURA DM-15 เพราะวัดแม่นยำ ใช้งานง่าย ไม่ต้องใส่ถ่าน และคงทน
ถ้าปลูกทุเรียนไปแล้ว 2-3 เดือน ไม่ติดใบอ่อน ต้องขุดมาดู อาจเป็นเพราะน้ำขัง ต้องรีบแก้ไข
สภาพพื้นที่ปลูกทุเรียน
- ควรมีความลาดเอียง 1 – 3 % และ น้ำท่วมไม่ถึง น้ำไม่ขัง มีความสามารถระบายน้ำได้ดี
- สำหรับดินที่ระบายน้ำไม่ดี มีความจำเป็นต้องปลูกทุเรียนแบบยกโคก เพราะหากมีน้ำท่วมขัง เป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้ขาดอากาศ เกิดการเป็นกรดได้ง่าย รากทุเรียนจะอ่อนแอจึงถูกเชื้อราไฟทอบธอร่าเข้าทำลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียนตามมา
- ดินที่ใช้ปลูกทุเรียน ควรมีหน้าดินไม่น้อยกว่า 50 ซม. เพราะทุเรียนเป็นพืชที่รากหากินไม่ลึกมาก ประมาณ 30-50 ซม
- ระดับน้ำใต้ดินควรมากกว่า 75 ซม. ถ้าระดับน้ำตื้นเกินไป จะส่งผลเสียต่อระบบรากของทุเรียน มีโอกาสเสี่ยงกับโรครากเน่าโคนเน่าได้ง่าย เพราะรากทุเรียนหากินอยู่ในระดับประมาณ 50 ซม.
- ถ้าปลูกทุเรียนไปแล้ว 2-3 เดือน ไม่ติดใบอ่อน ต้องขุดมาดู อาจเป็นเพราะน้ำขัง ต้องรีบแก้ไข (ดร.วีรวุฒิ กตัญญูกุล)
- ทุเรียนไม่ชอบลมแรง เมื่อลมพัดแล้วทุเรียนจะร่วง
ความชื้นในอากาศ
- ความชื้นในอากาศ หรือ ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) ที่เหมาะสมการเจริญเติบโตของทุเรียนอยู่ที่ 75 – 85%
- หากปลูกทุเรียนในพื้นที่ที่มีอากาศแห้งแล้ง พื้นที่ที่มีอากาศร้อนจัดเย็นจัด และมีลมแรง จะพบปัญหาใบไหม้หรือใบร่วง ทำให้ต้นทุเรียนไม่เจริญเติบโตหรือเติบโตช้าให้ผลผลิตช้าและน้อยไม่คุ้มต่อการลงทุน (กรมวิชาการเกษตร)
- ทุเรียนเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดที่มีความชื้นในอากาศและฝนดี เช่น ภาคใต้ ภาคตะวันออก ถ้าปลูกนอกพื้นที่ โอกาสตายเยอะ เราต้องปลูกพืชพี่เลี้ยง เช่น กล้วย สะตอ ไผ่ แซมไว้ในสวน หรือทำระบบน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศช่วย (ดร.วีรวุฒิ กตัญญูกุล)
- ถ้าต้องการรู้ว่าความชื้นในอากาศมากน้อยเท่าไร สามารถตรวจได้ด้วยเครื่อง Hygrometer
