“คุณรู้หรือไม่ว่าอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักสามารถช่วยควบคุมเชื้อโรคและกำจัดเมล็ดวัชพืชได้อย่างไร? มาเรียนรู้วิธีการจัดการอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเกษตร พร้อมเคล็ดลับที่ไม่ควรพลาด!”
ผู้บริหารไอฟาร์ม
ใช้เวลาอ่านประมาณ: 1 นาที
Quick Navigation
การหมักปุ๋ยไม่เพียงแต่ช่วยย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ (Organic Materials) และเพิ่มธาตุอาหารให้กับดิน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมเชื้อโรค (Pathogens) และกำจัดเมล็ดวัชพืช (Weed Seeds) ที่ไม่ต้องการ อุณหภูมิภายในกองปุ๋ยหมักมีบทบาทสำคัญในการทำให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการใช้งานในแปลงเกษตร
อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการฆ่าเชื้อโรค
อุณหภูมิสูงในกองปุ๋ยหมักสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เป็นภัยต่อพืช เช่น เชื้อรา (Fungi), แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคพืช (Pathogenic Bacteria) และปรสิตบางชนิด (Parasites) อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการฆ่าเชื้อโรคควรอยู่ในช่วง 55-65 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่จุลินทรีย์ที่ก่อโรค เช่น Escherichia coli, Salmonella spp., และ Fusarium spp. ไม่สามารถทนทานได้ เมื่อกองปุ๋ยหมักรักษาอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง จะช่วยให้กองปุ๋ยปลอดภัยและไม่มีเชื้อโรคที่สามารถแพร่กระจายได้เมื่อใช้งาน
อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการกำจัดเมล็ดวัชพืช
นอกจากการควบคุมเชื้อโรคแล้ว อุณหภูมิที่สูงในกองปุ๋ยหมักยังสามารถกำจัดเมล็ดวัชพืชที่อาจอยู่ในวัตถุดิบที่ใช้ในการหมักได้ เมล็ดวัชพืชสามารถเป็นปัญหาใหญ่ในการเพาะปลูก เพราะมันสามารถเจริญเติบโตและแย่งทรัพยากรจากพืชที่เราปลูก ดังนั้นการควบคุมอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักให้สูงถึง 60-70 องศาเซลเซียส จะช่วยทำลายเมล็ดวัชพืช (Weed Seed Destruction) และป้องกันไม่ให้มันงอกขึ้นมาในแปลงเกษตรของคุณ
กลไกการทำงานของความร้อนในการควบคุมเชื้อโรคและกำจัดเมล็ดวัชพืช
หลังจากระยะแรกผ่านไป อุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักจะเพิ่มขึ้นเป็น 45-70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระยะที่จุลินทรีย์ที่ชอบความร้อน เช่น Thermus aquaticus, Bacillus stearothermophilus และ Actinomycetes ทำงานได้ดี ระยะนี้เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะช่วยในการกำจัดเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืชที่อยู่ในกองปุ๋ยหมัก
การจัดการอุณหภูมิให้คงที่ในกองปุ๋ยหมัก
เพื่อให้กระบวนการควบคุมเชื้อโรคและการกำจัดเมล็ดวัชพืชในกองปุ๋ยหมักมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรมีการจัดการอุณหภูมิให้คงที่ การพลิกกลับกองปุ๋ยหมัก (Turning the Compost) เป็นระยะ ๆ จะช่วยในการกระจายความร้อนทั่วกองปุ๋ยหมัก และเพิ่มการระบายอากาศ (Aeration) ที่ช่วยให้จุลินทรีย์ เช่น Thermus spp. และ Bacillus spp. ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การตรวจสอบอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอด้วยเทอร์โมมิเตอร์สำหรับปุ๋ยหมัก (Compost Thermometer) ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าอุณหภูมิอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมเชื้อโรคและกำจัดเมล็ดวัชพืช
Advertising Area | พื้นที่ประชาสัมพันธ์ : สนใจสั่งซื้อสินค้าคลิกที่รูป หรือติดต่อ LINE ID : @ifarm
การพลิกกลับกองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการทำปุ๋ยหมัก หากเลือกทำวิธีการแบบแม่โจ้ ก็ไม่จำเป็นต้องกลับกอง แต่ตั้งกองให้ถูก ทั้งเรื่องความกว้าง ความสูงและรูปทรงต้องเป็นสามเหลี่ยม เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศโดยธรรมชาติ
ดร. คณวัฒน์ ธีรนิธิวัฒน์
ประโยชน์ของการควบคุมอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมัก
การควบคุมอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยจากเชื้อโรค และไม่มีปัญหาวัชพืช นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้สารเคมี (Chemical Inputs) ในการควบคุมวัชพืชและโรคพืชทางอ้อมได้อีกด้วย
[ คลิป ] ทำปุ๋ยหมักอย่างไร ให้ได้มาตรฐานของกรมวิชาการเกษตร ผลิตขายได้แบบมั่นใจ
พบกับวิธีการทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง แม่โจ้ เพื่อให้ได้ ปุ๋ยหมัก ที่มีคุณภาพตามค่ามาตรฐานปุ๋ยของกรมวิชาการเกษตร คุณเกียรติพงษ์ สงพรหม (นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ กรมพัฒนาที่ดินและ ดร. คณวัฒน์ ธีรนิธิวัฒน์ ผู้บริหาร IFARM จะชวนคุณไปสนุกกับตัวเลขด้วยการเจาะลึกผลวิเคราะห์ปุ๋ยหมักที่ได้จากการทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง สูตรแม่โจ้
ตอบแบบวิทยาศาสตร์ทำไมถึงต้องเลือกปลูก "ต้นทองหลางน้ำ" สายพันธุ์ก้านแดง มีหนาม
หลังจากที่ IFARM ได้จุดกระแสให้ “ต้นทองหลางน้ำ” กลับมาเป็นที่นิยมปลูกกันมากขึ้นอย่างกว้าง ในฐานะพืชแม่นม / พืชพี่เลี้ยงในสวนทเุรียน หรือไม้เศรษฐกิจอื่น ๆ ทำให้มีการจำหน่ายทั้งต้นกล้า / กิ่งทองหลางน้ำกันอย่างคึกคัก ซึ่งแต่ละคนก็พยายามสร้างจุดเด่นจุดขายของตัวเอง จนคนที่ต้องการซื้อไปปลูกเกิดความสับสนว่าพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกควรเป็นสายพันธุ์ไหนกันแน่
-
-5%Add to cartQuick View
-
-5%Out of stockRead moreQuick View